วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

ผัดกระเพรา...อาหารสิ้นคิดจริงหรือ

"ผัดกระเพรา" อาหารสิ้นคิดจริงหรือ
ช่วงเวลารีบเร่ง อย่างช่วงพักเที่ยงในวันทำงานนั้น คงจะมีหลายๆคน ที่ไม่ได้คิดเตรียมตัว ล่วงหน้าไว้ก่อนว่า "เที่ยงนี้...ตูข้าจะกินอะไรดีฟะ!!!" ใช่หรือเปล่าครับ อาจเป็นเพราะว่า ในช่วงที่ทำงาน เรามัวแต่ยุ่งอยู่กับงาน (ของคนอื่น ที่จ้างเรามาเป็นมือเป็นตีน) มากจนลืนนึกถึงตัวเองไปว่า อยากจะกินอะไรดีวุ๊ย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศ และลูกจ้างโรงงานทั้งหลาย พอถึงเวลาพักเที่ยง ก็มักจะกรูกันออกมาจากที่คุมขัง...ง่า...พูดซะ...ผมหมายถึงที่ทำงานน่ะครับ เพื่อที่จะรีบตรงดิ่งไปยัง แหล่งอาหารที่ตน และกลุ่มคุ้นเคยกันดี ถ้าอย่างหนุ่ม สาวออฟฟิศบางกลุ่ม บางคน ที่มีรายได้ค่อนข้างดี ก็อาจจะได้นั่งในร้านอาหารติดแอร์กันอย่าง สบายอกสบายใจล่ะมังครับ ส่วนหนุ่มๆสาวๆ ที่มีรายได้จำกัดจำเขี่ย ก็คงต้องพึ่งบริการร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ร้านส้มตำไก่ย่างหน้าปั๊ม ร้านอาหารอิสานหน้าตลาดสด และ แน่นอน...ร้านอาหารตามสั่งซอยข้างโรงงานนี่แหละครับ เย็นไม่เย็น แอร์ไม่แอร์ไม่เป็นไร ขอท้องตูอิ่มไว้ก่อนล่ะวุ้ย นี่แหละครับ ชีวิตลูกจ้างระดับล่าง อย่างที่ผมเองก็เคยเป็นมา เมื่อหลายปีก่อน ผมน่ะหรือ ใช้บริการร้านอาหารตามสั่งครับ เอาความเร็วเข้าว่า จะได้มีเวลาไปนั่งทอดหุ่ย คุยกับเพื่อนๆ หรือเอนหลังงีบสักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี เก็บแรงไว้กินเหล้าตอนเย็น...แหะๆ

จะมีเมนูอะไรมากมายสักกี่มากน้อย เมื่อคุณเข้าไปนั่งในร้านอาหารตามสั่งล่ะครับ ก็จะหนีพ้นมั้ย กับ สุดยอดอภิมหาอมตะโคตะระนิรันดร์กาลอาหารไทย กับเมนูอย่างหมูหรือไก่ผัดพริก ที่มีแต่หอมใหญ่กับพริก หมูทอดกระเทียมพริกไทย แต่ต้องเรียกหมูผัดครับ ทั้งๆที่เขียนบอกโต้งๆว่า หมูทอดกระเทียมพริกไทย นั่นแหละ แต่พอท่านทำมาเสิร์ฟ ไหงกลายเป็นหมูผัดกระเทียมไปได้อย่างน่าอัศจรรย์จริงๆครับ แล้วมีอะไรอีก...อ้อ...ไข่เจียวหมูสับที่หมูโดนสับจนละเอียด แล้วละลายหายไปกับน้ำมัน กับคะน้าหมูกรอบอันอุดมไปด้วยใบคะน้ารุ่นราวคราวคุณปู่ (มันแก่มากๆ) พร้อมหมูกรอบเหี่ยวๆสี่ห้าชิ้น เฮ้อ...และแน่นอนครับ ขาดไม่ได้ พระเอก (หรือนางเอก) ของร้าน ผัดกระเพราครับ คิดอะไรไม่ออกก็ "ป้าๆ...ผัดกระเพราหมูจาน...เผ็ดๆ...นะ" ครับ...นั่นแหละที่ผมเคยทำอยู่ เป็นประจำทุกวัน จนหัวเถิกหัวล้านเข้าทุกวัน ก็จะอะไรล่ะครับ เคยไปยืนดูป้าแกทำอาหารอยู่ทีนึง ผัดกระเพราราดข้าว ใส่จานยังกะอาหารไหว้ศาลพระภูมิ จานนิดเดี๊ยะ ป้าแกประโคมผงชูรสเข้าไปซะเต็มจนพูนช้อนเลยครับ...โอ...เส้นผมจ๋าพี่ลาก่อนนนนนนนน...


ใช้เวลาสังเกตสังกาอยู่พอสมควร จากการที่เทียวเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ เพื่อที่จะเข้าไปสั่งอาหารสิ้นคิดติดหัวใจ "น้องครับ...กระเพราหมูราดข้าวจานนึงครับ...ไม่เอาไข่ดาวนะครับ...อ้อ...เอาหัวใจและเบอร์โทรของน้องใส่มาด้วยนะครับ..." หรือ "เพ่ๆเพราหมูจาน..." หรือ "เฮียยยยย...เอิ๊กกกก...กาพาวหมูจานนนนน...ด่วนที่ซู้ด ดดด" อันหลังนี้ คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ไปสั่งตอนไหนน่ะ ฮาฮาฮา...แล้วผมก็ให้เกิดความสังสัยแล้วล่ะว่า คุณป้า คุณน้อง คุณเพ่ คุณเฮีย เจ้าของร้านอาหารตามสั่งเนี่ยะ เข้าใจอะไรบางอย่าง ที่มันผิดเพี้ยนไปซะแล้วรึเปล่าหนอ ก็ผัดกระเพราแต่ละจาน ของแต่ละร้านที่ได้เข้าไปสวาปาม ...เง้อ...เข้าไปสั่งกินน่ะสิ เคยสังเกตกันมั้ย ครับว่ามันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง แน่นอนครับ มีหมูหรือไก่เป็นส่วนประกอบหลัก ดูๆแล้วก็น่าจะประมาณ 50% ของพื้นที่ (ว่าไปชักวิชาการล่ะวะ...)บางร้านก็มี ถั่วฝักยาวซอย ใส่ลงไปประมาณ 20% หอมหัวใหญ่ 20% (บางร้านมีแครอทหั่นละเอียดใส่เข้ามาด้วย) เครื่องปรุงอื่นๆ 5% ที่เหลือ 5%เป็นพื้นที่สำหรับ"กระเพรา" ครับ มองเห็นความผิดเพี้ยนกันบ้างมั้ยครับ


เข้าร้านไหนๆ เขาก็เขียนหรือไม่ก็แกะสติ๊กเกอร์ เห็นกันจะๆ ภาษาไทยโต้งๆเลยว่า "ผัดกระเพราหมู-ไก่-เนื้อ" แต่ไอ้ที่เขาทำๆมาเสิร์ฟกันน่ะ มันน่าจะเรียกว่า "หมู-ไก่-เนื้อผัดใส่กระเพรา" ซะมากกว่า หรือไม่ก็ "หมูผัดถั่วฝักยาวกระเพราจึ๋งนึง" ซะมากกว่า ก็ชื่อมันบอกว่าผัดกระเพรา มันก็ควรจะมีกระเพราเป็นส่วนประกอบอย่าง น้อยครึ่งหนึ่งสิครับ ว่ามั้ย ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ ให้ตรงกับความหมายในการเรียงคำภาษาไทยซะ อย่างที่ผมเสนอไปนั่นไงครับ ฮาฮาฮา...


อ๊ะ...ผมก็แค่บ่นในฐานะเป็นคนทำอาหารเป็นคนหนึ่งเท่านั้นเองแหละน่า จะมีใครหมั่นไส้กันบ้างรึเปล่าเนี่ยะ พ่อค้าแม่ค้าเขาก็คงอยากทำตามความต้องการของลูกค้าเขาแหละครับ คงมีส่วนน้อยที่จะบ่นว่า ใส่หมูใส่เนื้อเยอะไป อย่างผมเนี่ยะ (เห็นกินไม่หมด ก็เขี่ยกินแต่เนื้อๆ เหลือผักๆไว้กันแทบทั้งนั้นนี่นา...ฮาฮาฮา) แต่พูดก็พูด เถอะนะครับ เดี๋ยวนี้น่ะ ไปสั่งผัดกระเพราร้านไหนๆกิน มันก็จะมีแต่ไอ้ส่วนผสมอย่างที่ผมบ่นมาเนี่ยะ ไม่ได้เจอแบบว่า ผัดกระเพราออริจินัล กับเขาสักทีเลยครับ กินไปกินมาชักไม่ไหว เพราะช่วงหลังๆ อายุเริ่มเยอะ (ฮืออออออ...ฝืนใจพูดความจริงนะนี่) ไอ้การกินเนื้อสัตว์เยอะๆท้อง ไส้มันก็ชักจะขี้เกียจทำงานเข้าไปทุกทีก็ เลยอยากจะกินผักให้มากขึ้น แต่ว่าครับ...ยังไงๆ ผัดกระเพราหมู มันก็ยังมีรสชาดที่คุ้นลิ้น อยากกินอยู่บ่อยๆ (คนรักเดียวใจเดียว ก็งี้แหละครับ...ฮิ้วววว) จะทำไงล่ะครับ นอกจากหาเวลาว่างมาทำกินเอง จะได้กิน "ผัดกระเพรา" จริงๆสมใจอยากให้พุงกางไปเลยไง ใส่หมูกะติ๊ดนึง ที่เหลือ กระเพราล้วนๆครับ...ก็ผมชอบบบบบของผมนี่ครับ ฮ่าฮ่าฮ่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น