วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บริโภคศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องลาบ ภาค 2

ลาบหมูศาสตร์
ลาบวัว (หรือควาย)ผ่านไปแล้ว คราวนี้มาดูลาบหมูกันบ้าง ซึ่งก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันนิดหน่อย เนื่องจากหมู เป็นสัตว์ที่กินอาหารไม่ค่อยจะเลือก มันกินทุกอย่างล่ะครับ ถ้าเป็นหมูป่าก็ดูจะค่อยยังชั่วหน่อย เพราะมันกินพืชผักรากไม้ หน่อไม้ในป่า ส่วนถ้าเป็นหมูเลี้ยงน่ะรึ...หมูดำ ที่ชาวเขานิยมเลี้ยงกันนั้น เขาจะเลี้ยงแบบปล่อยให้หากินเองอิสระครับ เดินเพ่นพ่านไปทั่วหมู่บ้าน ผมเห็นมากับตาตอนขึ้นไปเที่ยวบ้านเพื่อน บนคอยวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มันกำลังเอาจมูกขุดคุ้ยบนพื้นแฉะๆ ใต้ถุนครัว ที่ซึ่งเจ้าของบ้านมีเศษอาหารอะไรกินเหลือ ก็จะทิ้งลงมา นั่นแหละ มันไปคุ้ยกินอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงนั้น ส่งเสียงในลำคอเบาๆด้วย อุดๆๆๆๆ ขุดไปอุดไป เข้าท่าแฮะ...อี๋ย์...เข้าไปดูใกล้ๆ ถึงกับผงะ มันกำลังแทะซากไก่ตายอยู่อย่างเพลิดเพลินเลยครับ...โอย...จะเป็นลม

ส่วนหมูสีชมพู หรือหมูเลี้ยง หมูบ้าน หมูเมืองอะไรก็ว่ากันไป เขาเลี้ยงกันในคอกครับ จะปล่อยให้มันเดินเพ่นพ่านเหมือนหมูดอยคงไม่ไหว เดี๋ยวหมูหนูหายขึ้นมา จะเป็นเรื่องกันใหญ่ หมูที่ชาวบ้านเลี้ยง รวมถึงเพื่อนซี้อีกคนของผมที่อำเภอแม่สาย บ้านมันเลี้ยงหมูขาย ขายเนื้อหมูและมันก็ทุบหัวหมูเองด้วย บรื๋ออออ...(พอถึงเวลาที่มันต้องทำงาน ผมหนีกลับบ้านก่อนทุกทีอ่ะ ไม่ไหว...ฉะหยดฉะหย็องเกิ๊น...) หมูพวกนี้เขาจะเลี้ยงกันด้วยวัสดุพื้นบ้านอย่างรำข้าวผสมต้นกล้วยสับๆๆๆแล้วต้มๆๆๆให้เละๆ ผักพื้นบ้านอย่างผักกระถิน ตัดมาเป็นกิ่งๆ โยนเข้าไปในคอกเลย ให้มันจัดการเอง หรือหญ้าจำพวกหญ้าขน และเศษผักต่างๆที่หาได้ รวมถึงเศษอาหารที่เจ้าของกินเหลือด้วย ส่วนพวกที่เลี้ยงในฟาร์ม ก็คงจะเลี้ยงด้วยอาหารสำเร็จล่ะครับ เพราะสะดวกแก่การทำเป็นธุรกิจดี สำหรับผมแล้ว...บ้านใครอยู่ใกล้คอกหมูนี่ ถือว่านรกสุดๆครับ อย่างตอนไปทำงานที่นครปฐม เขาเช่าห้องให้อยู่แถวๆลำพยา ก็ดูจะสะดวกสะบายพอควร แต่พอตกเย็น ลมเริ่มโชยเท่านั้นแหละครับ นรกแตกบึ้ม กลิ่นขี้หมูตลบอบอวลไปทั้งตำบล ปรากฏว่า ถัดไปอีกแค่ซอยเดียว เป็นฟาร์เลี้ยงหมูกันทั้งซอยเลยครับ จะบ้าตาย...

ถ้าใครเคยเห็นสภาพในคอกหมู ก็อาจจะรู้สึกแหยงๆเหมือนที่ผมเป็นครับ หมูบางคอก บ้านเจ้าของไม่ค่อยมีน้ำ หรือมีแต่ขี้เกียจล้างคอก คอกหมูก็จะสกปรกมาก เต็มไปด้วยขี้หมู และเศษอาหารอะไรๆต่างๆนานา บางคอกไม่ได้เทพื้นนะ เป็นพื้นดินนี่แหละ ล้อมรั้วเอาก็พอ แล้วพื้นดินในคอกก็จะเปียกๆ แฉะๆ ด้วยฝีตีนน้องหมูที่เดินย่ำไปมา แล้วน้องหมูมันก็นอนเกลือกนอนกลิ้งอยู่บนขี้มันนั่นอ่ะ ไปเจอสภาพแบบนี้มา ผมต้องสัญญากับตัวเองเลยว่า ถ้าต้องกินลาบ จะไม่กินลาบหมูดิบเป็นกันขาด ฟ้าดินเป็นพยาน...ตราบชั่วฟ้าดินสลาย...เลยคอยดู

มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้น เมื่อกลางดึกคืนหนึ่ง เมื่อครั้งที่ผมแวะไปนอนค้างบ้านเพื่อน (ไม่ใช่คนที่เป็นพ่อค้าหมูนะ) บ้านมันก็เลี้ยงหมูเหมือนกัน และมันบอกว่า แม่หมูที่พ่อมันเลี้ยงกำลังท้องแก่ คงจะคลอดในอีกวันสองวันนี้แหละ มึงมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยพ่อกูทำคลอดหมู...อ้ายเอี้ยยยยย...คิดได้เนอะเมิง...ประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ผมกำลังนอนหลับอุตุอย่างสบายใจจากการได้แย่งที่นอนเพื่อนนอน ส่วนเพื่อนผม ไล่มันลงไปนอนกับพื้น...มันยอมแต่โดยดี...เพราะกลัวพลังเสียงโซปราโน่ของผมที่กรอกใส่หูมันมาแล้ว...เข็ดว่ะ...เห็นมันว่างั้น ไอ้เวง...เสียงเอะอะดังมาจากคอกหมู ปลุกผมตื่นขึ้น ลุกขึ้นนั่งงัวเงีย มองไปที่พื้น อ้าว... ไอ้เพื่อนเลิฟหายไปไหนและ ยังไม่ทันหายสงสัย มันก็ทะลึ่งพรวดเข้าห้องมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ประมาณว่า นี่ถ้าผมเป็นกะเทยแอ๊บแมน ก็คงจะความแตกกันตอนนี้แหละครับ...ตกใครคร่อดๆ แสรดดดเอ๊ย...

"อ้าว...ตื่นพอดี กูกะลังจะตามมึงไปช่วยทำคลอดหมู..." มันพูดเพียงแค่นั้น ผมรีบทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วเอาผ้าห่มคลุมโปงทันที ยังกะเจอผีหลอก...ส่วนไอ้เพื่อนผมมันหัวเราะใหญ่ มันรู้ว่าผมทนเห็นอะไรประมาณหมูคลอดลูก หรืออะไรที่แหยะๆแหยงๆเป็นเมือกๆลื่นๆแฉะๆไม่ได้ เพราะจะเก็บไปคิดมาก จนกินข้าวกินปลาไม่ลงซะงั้น มันก็เลยแกล้งผมก็เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้ผมไปทำคลอดหมูอะไรหรอก แต่ว่าครับ...คนในบ้านพากันตื่นหมดเลย ลงไปที่คอกหมู เปิดไฟสว่างเลย มีเพื่อนบ้านมาดูกันด้วย ท่าทางตื่นเต้นเหมือนลูกสาวจะคลอดลูกเลยทีเดียว พ่อกับแม่ของเพื่อนและไอ้เพื่อนผม กำลังนั่งข้างๆแม่หมูที่นอนอยู่ในคอก ผมไม่เห็นได้ชัดหรอก ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบดูอะไรแบบนี้...

กว่าจะทำคลอดให้แม่หมูน้อยเสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบตีสี่และ ไม่นงไม่นอนมันแล้ว พ่อแม่พี่น้อง และไอ้เพื่อนผม รวมถึงเพื่อนบ้าน จับกลุ่มคุยกันเรื่องหมูอยูในครัว ส่วนผม นั่งเล่นเว็บโป๊รอให้เช้าอยู่ในห้องมัน...(หึหึหึ) พอตอนเช้าตรู่ เดินไปที่ตลาดเช้าใกล้ๆ ชาวบ้านร้านตลาดวันนี้ มีทอร์คออฟเดอะทาวน์กันแซด เรื่องแม่หมูบ้านเพื่อนผมออกลูก 6 ตัว ทุกคนในบ้านเพื่อนของผม ต่างดีอกดีใจ ที่ได้ลูกหมูน้อยๆตั้งหกตัว คุณพ่อยิ้มหน้าบาน คุณแม่ยิ้มแป้น คุณเพื่อนยิ้มสะแยะ ส่วนผม...ยิ้มแหยๆ...หกหมูน้อยกายสิทธิ์...ทำเอาผมไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปกับเขาด้วย เฮ้อ...

เอาล่ะครับ จะคุยเรื่องลาบ ไหงกลายเป็นคุยเรื่องหมูคลอดลูกไปซะล่ะ...อย่างที่บอกครับ ด้วยความรู้สึกที่ว่า หมูเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยรักความสะอาดเอาซะเลย การที่จะกินมันเป็นอาหาร ผมจึงแนะนำให้ทุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆท่าน กินเนื้อหมูที่ปรุงสุกแล้ว จะดีกว่าครับ ยิ่งเป็นลาบหมูด้วยแล้ว คั่วให้สุกแล้วโรยกระเทียมเจียว อร่อยกว่ากินดิบๆอีกนะครับ

ลาบหมู

เครื่องปรุง
จิ๊นหมูลาบ 1ชุด 1 กิโลกรัม
ผักไผ่ 5-6 ต้น
พริกดำ 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 5 หัว แกะกลีบแล้วโขลกทั้งเปลือกนั่นแล เจียวให้เหลืองกรอบรอท่าไว้เลยครับ
พริกขี้หนูแห้ง 15-20 เม็ด ทอดไฟอ่อนที่สุด จนสุกถึงเมล็ดในแหละครับ
ข่า 7 แว่น
ตะไคร้ 2 ต้น
ใบมะกรูด 5-7 ใบ
ต้นหอม 2 ต้น
ผักชี 1 ต้น
เกลือป่น
ชูรส

วิธีทำ




  • เช่นเดียวกับลาบวัวครับ แยกเนื้อหมูออกมา หั่นชิ้นเล็กๆ ถ้ามีพังพืด หรือไขมันติดอยู่ เอาออกให้หมดครับ เอาแต่เนื้อล้วนๆเท่านั้น นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อน แล้วค่อยสับๆๆให้เป็นลาบ อย่าลืมเติมเลือดลงไปด้วยขณะสับครับ เช่นเดียวกับลาบวัวนั่นแหละ แต่ลาบหมูส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สับจนเหนียวหรอกครับ เอาละเอียดจนไม่เป็นชิ้นเนื้อ และก้อนเลือดไม่เป็นลิ่มก็ใช้ได้แล้ว ตักใส่ชาม ใส่ตู้เย็นไว้ก็ได้ครับ ประเดี๋ยวจะมีน้องวันลงไปแจกไข่ กลายเป็นลาบหมูไข่ขางไป...(ไข่ขาง แปลว่า ไข่แมลงวันครับ)

  • มาดูฝ่ายเครื่องในครับ ไส้หมูเอย ตับเอย ม้ามเอย ล้างให้สะอาดเลยครับ และอีกอย่างก็คือหนังหมูกับมันหมู หนังหมูต้องขูดต้องดึงเอาขนออกให้หมดเลยเชียวนะเฮีย ประเดี๋ยวขนหมูจิ้มลูกกระเดือก มันไม่เห็นสนุกเลย...

  • ตั้งหม้อใบพอประมาณ บนไฟแรงไปเล้ย หนุ่มไฟแรงซะอย่าง ใส่น้ำสักครึ่งหม้อ ทุบตะไคร้ให้พอแตก หั่นเป็นท่อนๆใส่ลงไปเลยครับ ตามด้วยข่า และฉีกใบมะกรูดใส่ตามลงไป เติมเกลือป่นสัก 1 ช้อนชาด้วยก็จะดีมากมาย รอจนน้ำเดือนพล่าน ลองเอามือจุ่มทดสอบดูก็ได้ครับ ว่าร้อนและเดือดพล่านหรือยัง (เฮ้ย...จะทำจริงเหรอ...ผมพูดเล่นนนนน) เอาเครื่องใน และหนังหมูใส่ลงไปเลย ต้มซะให้หายดิบ...หึหึหึ

  • และแล้ว เมื่อเครื่องใน และหนังหมูหายดิบแล้ว...(จะพูดให้กวนประสาทไปไยรึนี่...) พี่ท่านจงเร่งนำมาซอย ซอย และซอย เป็นชิ้นเล็กๆแต่พองามเถิด...ชักช้าจักตาลายเพราะอดอยากเป็นแน่แท้...ส่วนหนังหมู ให้พวกทหารมันซอยเป็นเส้นบางๆ เตรียมท่าไว้เถิดหนา...ส่วนข้าพเจ้าจักรับซอยผักไผ่ ผักชี แลต้นหอม แบบหยาบๆรอท่า...จงเร่งมือเถิดหนา...อย่าช้าไย...แตร๊งงงง...แตรงงงง...แตร่งงงง...แตร๊งงงงง (เฮ้อ...พอเหอะ...ยิ่งเขียนยิ่งมุขควาย...)
ยำลาบหมู


  • เช่นกันกับลาบวัว ลาบควายครับ เลือกว่าจะใช้เลือดหรือน้ำต้มไส้หมู ตักมาสัก 1 ทัพพี หรือกว่านั้น หากต้องการให้น้ำท่วมหมู

  • ใส่พริกดำ กับเกลือป่นลงไปคนให้เข้ากัน ชิมรสเค็มเผ็ดครับ ได้ที่แล้วก็เอาน้องหมูลงไปคลุกคลีขยี้ยำ ให้หนำใจ เข้าพริกเข้าเกลือดีแล้ว ใส่เครื่องในต้ม หนังต้ม ผักไผ่ ผักชี และต้นหอมตามลงไปคลุกอีกทีครับ•ใครไม่แหยง จะจัดเสิร์ซะตอนนี้เลยก็ยังได้ ไม่มีปัญหา แต่ผมขอตัวนะจ๊ะ ม่ายหวายจากินจ่ะ...

  • ใครจะกินแบบสุกกับผม ก็ตั้งกระทะเลยครับ ลาบคั่วมีอยู่สองแบบคือคั่วกับน้ำ วิธีนี้นิยมกันในแถบจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ครับ ส่วนลำปาง ผมไม่รู้ครับ...และอีกแบบคือคั่วด้วยน้ำมัน แบบนี้ผมเจอในเชียงใหม่ และลำพูน...ส่วนแม่ฮ่องสอน ผมก็ไม่รู้ครับ...

  • จะคั่วแบบไหนก็เลือกกันเถิด แต่ส่วนตัวกระผม ชอบแบบคั่วน้ำมันมากกว่าครับ เอาล่ะ...ใส่น้ำมันลงในกระทะ...ใช้ไฟค่อนข้างแรงหน่อย รอให้ร้อน ทุบกระเทียมใส่ลงไปสัก 4-5 กลีบ เพื่อความเคยชินเมื่อต้องทำอาหารผัด...ใส่ลาบหมูดิบลงไปผัดเลยครับ ขยี้ให้แตก ถ้ายังเป็นก้อนอยู่ ก็ตักน้ำต้มเครื่องในเติมลงไปอีกก็ได้ ผัดไปจนสุกนั่นแหละครับ ลาบหมูที่หายดิบแล้ว จะเป็นสีน้ำตาลดำเข้มครับ

  • เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยด้วยผักชี ต้นหอม และกระเทียมเจียวให้สวยงาม เสิร์ฟกับผักกับลาบ กินกับข้าวเหนียวได้แล้วครับ...อะไรนะ...ข้าวเหนียวยังไม่ได้นึ่ง! เวรละ...งั้นรีบไปเอา สามสิบห้ามาสองขวด...ด่วนเลย...(ตีหน้าเหมือนตกใจ และโมโหหิว...แต่น้ำเสียงดูดีอกดีใจยังไงก็ไม่รุ๊...)
พบกันใหม่ ในตอนที่ 3 ครับผม
มีความสุขกันเยอะๆนะครับ
Mr.Ken

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น